ในช่วงที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ใครหลายคนอาจกำลังเผชิญกับชะตากรรมอันแสนหนักหน่วง ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและอุปสรรคนานับประการที่ถาโถมเข้าใส่คุณ กับช่วงเวลาที่ทุกอย่างดูอึมครึมและอึดอัดไปหมด บริษัทหลายแห่งต้องปิดตัวลง บางแห่งก็จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลงเพื่อคงธุรกิจไว้
แต่อนิจจา! เวลามันช่างเดินช้าเสียเหลือเกิน ก็เพราะมันเป็นผลพวงที่เกิดจากความถดถอยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง เป็นปรากฏการณ์แบบลูกโซ่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่มันยังเกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลกอีกด้วย
วันนี้ผมจึงขอยกบทความเรื่อง How to Pull Your Team Together After a Crisis ของ Dmitry Davydov แห่ง Bitrix24.Com ซึ่งผมได้ใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในการบริหารทีมงานในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้ มาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน
สำหรับผู้บริหารและเจ้าของกิจการ ผมเชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่จะทำได้ดีไปกว่าอดทนและมุ่งมั่นทำทุกวิถีทาง ให้ธุรกิจของคุณผ่านพ้นช่วงแบบนี้ไปให้ได้ และหากคุณสามารถยังยืนหยัดอยู่ได้จวบจนถึงวินาทีนี้ได้ นั่นแสดงว่าคุณได้ผ่านประสบการณ์อะไรมาไม่มากก็น้อยแล้ว แต่คงมีอีกหลายคน คนที่คอยทำงานอยู่เบื้องหลังคุณ (เหล่าพนักงานและทีมงานของคุณ)
พวกเขาจำต้องกัดฟันอดทนทำงานหนักขึ้น บางคนก็ยอมได้แม้กระทั่งไม่ได้รับเงินค่าทำงานล่วงเวลา เพราะพวกเขาพยายามช่วยคุณอย่างสุดความสามารถ แต่เชื่อเถอะว่า พวกเขาไม่สามารถอดทนต่อแรงกดดันได้ดีเท่าคุณแน่ๆ พวกเขาอาจเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายและท้อแท้กับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ดังนั้นคุณควรช่วยเหลือพวกเขา เป็นกำลังใจให้กับพวกเขา และยืนอยู่ข้างพวกเขาเสมอ
ผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณทราบถึงวิธีการในการช่วยเติมเต็มพลังให้แก่พนักงานและทีมงานของคุณให้พร้อมกลับมาพร้อมสู้ร่วมไปกับคุณอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดและคุณไม่ควรทำอย่างยิ่งในฐานะของผู้นำคือ การปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้นำหลายคนที่รู้สึกสับสน อึดอัด ขัดแย้งกับวิธีการที่จะสื่อสารให้ลูกทีมได้รับทราบถึงปัญหาและแนวทางในการเผชิญหน้ากับวิกฤตที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงมักจะเลือกใช้วิธีการเพิกเฉยต่อปัญหาเหล่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
ลูกทีมของพวกเขาจะรู้สึกว่ากำลังถูกทรยศและทอดทิ้งให้ต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง
ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ
ลูกทีมเหล่านั้นก็ทำอย่างเดียวกับผู้นำของเขา พวกเขาจะไม่สนใจกับปัญหาและทำเหมือนมันไม่เคยมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ก็นั่นเป็นเพราะผู้นำได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่า “คุณไม่ต้องไปสนใจกับปัญหา คุณแค่ทำทุกอย่างด้วยตัวคุณเองไปเถอะ”
ซึ่งนั่นคงไม่ใช้สิ่งที่ผู้นำที่ดีอยากจะสื่อสารกับพนักงานและทีมงานของพวกเขาเป็นแน่
เป็นผู้ฟังที่ดีโดยการรับฟังความคิดเห็นของทุก ๆ คน ไม่ใช่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง ไม่โยนความผิดให้ใคร และเลิกจ้องจับผิดคนอื่น ๆ
รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทีมของคุณให้ชัดเจนเพื่อให้ทุกคนได้รับทราบ
ยกตัวอย่างเช่น
" จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท มันทำให้เราต้องสูญเสียเพื่อนร่วมงานที่ดีของเราไปหลายคน ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนคงรู้สึกตกใจและเศร้าใจต่อการสูญเสียครั้งนี้ไปไม่น้อย และพวกเราคงคิดถึงพวกเขาทุกๆ คนที่จากไป พวกเราที่ยังอยู่ที่นี่อาจคงมีหลายคนที่รู้สึกสับสนและยังไม่รู้ว่าจะทำงานต่อไปอย่างไรเมื่อไม่มีพวกเขาเหล่านั้นแล้ว แต่พวกเราทุกคนย่อมรู้ดีว่า พวกเราจำต้องก้าวเดินกันต่อไปข้างหน้า และหากพวกเราต้องการก้าวไปอย่างมั่นคง พวกเราจะต้องทำงานอย่างรอบครอบมาก ๆ "
คุณต้องดึงความสนใจของทุกคนขึ้นมาก่อน คุณอาจตั้งประเด็นคำถามสั้นก็ได้เช่น "พวกเราจะเดินหน้าต่อกันอย่างไรดี"
เพราะคุณจะได้ไม่ต้องรอคำตอบไง แต่ให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณและลูกทีมของคุณจะพยายามช่วยกันจนได้แผนปฏิบัติการนี้ออกมาแน่ ๆ
แต่คุณจะต้องเป็นผู้ที่ต้องเริ่มต้นด้วยการเสนอแนวทางอะไรบางอย่างที่ถูกต้องออกมาก่อน
เพื่อนำมาประยุกต์ให้เข้ากับแนวทางที่คุณได้เริ่มไว้ เพียงไม่กี่ขั้นตอนแค่นี้ก็จะทำให้คุณได้แผนปฏิบัติการที่ทุกคนยอมรับและรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในการวางแผนนั้นแล้ว
ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ อาจนำมาซึ่งความไม่มั่นใจของสมาชิกทุกคนในทีม ดังนั้น คุณจึงควรต้องผลักดันให้ทุกคนสื่อสารกันมากขึ้น เพราะการที่ทุกคนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอยู่เสมอนี้ จะไปทำลายความหวาดหวั่นในใจของทุกคน และทำให้ทุกคนกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ เพิ่มมิติในการสื่อสารของทุกคนในทีม เช่น
เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับงาน อัพเดทข่าวสารและแบ่งปันข้อมูลใหม่ ๆ ให้แก่กัน โดยที่คุณสามารถทำได้ตลอดเวลาและทุกครั้งที่มีโอกาส คุณสามารถทำได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยก็ได้หรือจะสื่อสารกับลูกทีมแบบตัวต่อตัวก็ได้เพื่อต้องการเน้นย้ำให้พวกเขารับรู้ถึงกฎระเบียบใหม่ๆ และหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขา
ในการสร้างความสามัคคีและสร้างเอกลักษณ์ของทีมขึ้นมาใหม่อีกครั้งนั้น
ให้ลองกลับมาทบทวนดูว่าวิสัยทัศน์ของทีมว่าคืออะไร อะไรคือจุดมุ่งหมายของทีม
ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ล้วนจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์
จะทำให้สมาชิกในทีมทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นหรือมีสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้นก็ตาม
เพราะทุกครั้งที่เกิดวิกฤต ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเพียงใดก็ตาม มันจะไปสั่นคลอนความเชื่อมั่น และขวัญกำลังใจของทุกคน
หน้าที่ของคุณในฐานะผู้นำคือ การเข้าไปช่วยให้พวกเขามีกำลังใจและกลับมาอยู่ในความเชื่อมั่นอีกครั้ง
หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือสื่อสารที่เหมาะสำหรับของทุกคนในทีม ผมขอแนะนำ Bitrix24 (ระบบ Private Social Intranet) Bitrix24 ได้รวมเอาเครื่องมือสื่อสารที่จำเป็นทั้งหมดมาไว้ในที่เดียวกัน ได้แก่ระบบรับ-ส่งข้อความ, อีเมล์, video chat, ระบบโทรศัพท์แบบ IP phone พร้อมมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการติดต่อและข้อความใหม่มาถึงคุณและลูกทีม ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่พลาดทุกการสื่อสาร
หากคุณสนใจ >>> Bitrix24 Intranet <<< ลองดูรายละเอียดได้ที่นี่